คุณเคยได้ยินชื่อของ Interlaken หรือไม่ ? นี่คือเมืองเล็กๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่โดดเด่นในด้านความสวยงามของธรรมชาติ หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยว อยากจะสัมผัสมุมมองใหม่ ๆ ในประเทศที่แปลกตา เรามั่นใจเหลือเกินว่า สวิตเซอร์แลนด์น่าจะเป็น 1 ในหมุดหมายสำคัญของคุณอย่างแน่นอน บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเมือง ++ ให้มากขึ้น มาดูกันว่าเพราะเหตุใด ? ที่นี่ถึงกลายเป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากพร้อมแล้วเชิญรับชมเนื้อหาที่เรานำมาฝากได้เลย !
แนะนำให้รู้จัก Interlaken เมืองที่เปี่ยมไปด้วย “มนตร์เสน่ห์แห่งขุนเขา”
Interlaken หรือ อินเตอร์ลาเคน เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในรัฐเบิร์น และตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยชื่อเมืองนั้นจะมาจากรากศัพท์ภาษาละติน ที่มีความหมายว่า “ระหว่างทะเลสาบ” เนื่องจากเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun ทางทิศตะวันตก และ Brienz ทางทิศตะวันออก แม้จะเป็นเมืองขนาดเล็กที่ถูกโอบล้อมเอาไว้ด้วยหุบเขา แต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นี่บอกไปไม่รู้จะเชื่อมั้ยคนเขียนเองก็ยังไม่เคยได้ไปเห็นด้วยตาทิพย์เลย สถานที่ที่ไม่รู้จัก สถานที่ที่ไม่เคยไป แค่ได้ยินชื่อเสียงในด้านความสวยงามก็คือตั้งเป้าหมายในชีวิตไปแล้ว !? ส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองแห่งนี้โดดเด่น เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง “เมืองที่ทันสมัย” และ “ธรรมชาติอันงดงาม” นั่นเอง
Interlaken คือที่ไหน ทำไมใครไปสวิตเซอร์แลนด์ต้องแวะ
อินเตอร์ลาเคนนี่บอกเลยว่าสักครั้งในชีวิตที่สายท่องเที่ยวต้องมาจริงๆ ! คุณลองจินตนาการดูสิว่า จะดีแค่ไหนถ้าเราได้อาศัยและท่องเที่ยวที่เมืองเล็กๆ บรรยากาศถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ และ ทะเลสาบน้ำใส รวมถึงในฤดูที่หิมะที่ทุกอย่างจะถูกปกคลุมขาวโพลนยังกับภาพวาด สวยซะเกินกว่าจะเป็นวิวที่เห็นได้ด้วยตาทิพย์ยังไงยังงั้น !? ซึ่งนี่แหละคือ Interlaken เมืองในฝันของนักท่องที่ยวหลายๆคน และไม่แน่มันอาจจะกลายเป็นเมืองในฝันของคุณโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่ทำให้ที่เที่ยวอย่าง Interlaken มีความโดดเด่นตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญ ทั้งสำหรับผู้ที่อยากขึ้นเขาไปสัมผัสยอด Jungfrau หรือจะนั่งชิลริมหาดทรายเทียมริมทะเลสาบก็ได้หมด เพราะเมืองนี้ไม่ได้แค่ “เป็นทางผ่าน” แต่เป็น “จุดเริ่มต้นของความประทับใจ” ที่ยากจะลืม
ทำความรู้จักกับ อินเตอร์ลาเคน สถานที่เที่ยวยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์
อินเตอร์ลาเคน… เมืองที่เราตั้งใจจะแค่ “ผ่านทาง” แต่สุดท้ายกลับอยากอยู่ยาวทั้งอาทิตย์
คุณลองถามนักเดินทางตัวจริงสิว่าถ้ามีเวลาน้อย แต่ต้องเลือกแค่เมืองเดียวในสวิตเซอร์แลนด์จะไปไหน ? เรากล้ามั่นใจเลยว่าๆนักเดินทางหลายๆคนต้องยกให้ “Interlaken” ต้องโผล่มาในลิสต์แน่นอน! เพราะที่นี่คือเมืองที่รวมทุกอย่างไว้ครบ ทั้งภูเขา ทะเลสาบ รถไฟสายโรแมนติก คาเฟ่วิวสวย และกิจกรรมแน่นๆ แบบเล่นได้ทั้งปี
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิน สายถ่ายรูป สายแบกเป้ หรือแค่อยากชิลดูวิว อินเตอร์ลาเคนคือจุดเริ่มต้นที่ดีงามสุดๆ โดยเฉพาะใครที่อยากไปจุงเฟราแบบคนจริงไม่พึ่งทัวร์… ที่นี่แหละจุดขึ้นรถไฟไป Top of Europe ที่วิวหาที่ไหนไม่ได้ !
จุดเด่นของ Interlaken ที่ทำให้ติดอันดับเมืองน่าเที่ยวอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์
Interlaken ไม่ได้มีดีแค่เพราะวิวสวยเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่รวมทุกอย่างไว้ครบ ทั้งธรรมชาติ ผู้คนที่เป็นมิตร ความสะดวกในการเดินทาง และความหลากหลายของกิจกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เมืองนี้ติดอันดับ Best City for Travel ของหลายเว็บไซต์ท่องเที่ยวระดับโลก รวมทั้งคนไทยและต่างชาติที่ต้องการเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม น่าฮีลใจ บางคนไม่เคยได้ไปที่แห่งนี้ถึงกับต้องตั้งเป้าหมายเลยว่า “สักครั้งก่อนตาย ต้องได้ไปดูความสวยงามของมันด้วยตาของตัวเอง” เห็นมั้ยว่ามันกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ใครๆก็ต่างให้การยอมรับ แล้วคุณล่ะอยากที่จะมาเยือนดินแดนแห่งความสวยงามนี้บ้างหรือเปล่า ?
เดินทางจาก Interlaken ยังไง ? ไม่เคยไปก็ไปได้
สำหรับมือใหม่ที่ อยากไป Interlaken จาก Zurich แล้วไม่รู้จักเส้นทางเลย ไม่ต้องห่วงเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งที่ทั้งแม่นยำ สะดวก เดินทางได้ง่าย ในแบบที่คนไม่เคยไปก็ไปเองได้แบบไม่หลง ไม่ว่าคุณจะแบกเป้เที่ยวคนเดียว หรือ เที่ยวแบบครบแก๊งก็ไม่เป็นปัญหา โดยการเดินทางหลักๆเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามนี้ คุณจะต้องรู้ก่อนว่ามีวิธีการเดินทางอยู่หลักๆ 2 แบบ ดังนี้
✈️เดินทางจาก Zurich , Lucerne หรือ Bern
ถ้าคุณกำลังวางแผนจะ ไป Interlaken จาก Zurich ขอบอกว่าเดินทางง่ายมาก ! เพราะมีทั้งรถไฟตรงจากสนามบินและจากตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงได้ โดยที่อันดับแรกให้คุณไปขึ้นจาก Zurich HB (สถานีกลางเมือง) ไปยัง Interlaken Ost ได้ทันที พร้อมวิวธรรมชาติข้างทางที่อลังการสุด ๆ เหมือนดูสารคดีไปตลอดทาง
ในขณะเดียวกันถ้าคุณอยู่ในเมืองหลวงของประเทศอย่าง Bern ก็สามารถ เดินทางจาก Bern ไป Interlaken ได้ภายในเวลาแค่ราวๆ 1 ชั่วโมงด้วยรถไฟสายตรงได้ช่นกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีทิวทัศน์ยอดเยี่ยม ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนให้ยุ่งยาก นั่งสบายๆ ถึงปลายทางแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
🚇 ขึ้นรถไฟสายพาโนรามา เห็นวิวสวยตลอดทาง
ส่วนใครที่เป็นสายโรแมนติกอยากชมวิวทะเลสาบแบบเต็มอิ่ม สบายหูสบายตาตลอดการเดินทาง เราขอแนะนำเส้นทางจาก Lucerne สู่ Interlaken โดยผ่านรถไฟสาย Luzern–Interlaken Express ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก ทำไมรู้ไหม ? เพราะรถไฟสายนี้จะพาคุณลอดอุโมงค์ เลียบทะเลสาบ และผ่านภูเขาสูงอย่างใกล้ชิด ดังนั้นวิวตรงนี้จะดีกว่าอีกแบบมากๆ แต่ก็อยู่ที่ความชอบส่วนตัวของเราด้วยนะ ว่าต้องการจะเห็นธรรมมชาติมุมมองไหน ถ้าอยากได้ธรรมชาติจัดๆพร้อมวิวข้างทางก็ไปเครื่อง แต่ถ้าอยากเห็นวิวแบบไม่ต้องเปลี่ยนการเดินทางให้ยุ่งยาก เราคิดว่ารถไฟสายพาโนรามานี่แหละตอบโจทย์สุด !
3 เหตุผลที่ Interlaken สามารถครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด
เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าเพราะเหตุใด ? Interlaken จึงถูกยกย่องว่าเป็น “เมืองน่าเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์” เราต้องขอหยิบเอา 3 สิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อมีการกล่าวชื่อของอินเตอร์ลาเคนขึ้นมา มาดูกันเลยว่าเหตุผลเหล่านั้นจะมีอะไรกันบ้าง
ความงดงาม ของธรรมชาติโดยรอบเมือง สวยเหมือนหลุดมาจากโปสต์การ์ด
ใครที่เคยมาเที่ยว Interlaken ต่างก็รีวิวไปในทิศทางบวกกันทั้งสิ้น ความสวยงามของเมืองนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะพบเห็นกันได้โดยทั่วไป วิวทิวทัศน์ของตัวเมือง วิวความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบ สิ่งที่คุณเคยคิดว่าจะได้เห็นมันแค่บนโปสต์การ์ด คุณจะได้เห็นมันด้วยตาตนเอง ที่สำคัญคือความงดงามนั้นมีอยู่ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณเลือกจะชมความสวยงามแบบใดเท่านั้นเอง
ระบบคมนาคมอันยอดเยี่ยม เดินทางสะดวกแม้อยู่ท่ามกลางหุบเขา
ถึง Interlaken จะถูกโอบล้อมด้วยหุบเขา พร้อมกับตีขนาบเอาไว้ด้วยทะเลสาบ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เมืองแห่งนี้เข้าถึงยากแต่อย่างใด หลายๆ คนอาจคิดว่าการมาที่เมืองนี้ จะต้องเดินเท้าผ่านเทือกเขาสูงชัน เส้นทางสุดยากลำบาก ความจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เนื่องด้วยสวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีระบบคมนาคมดีที่สุดในโลก การเดินทางมีให้เลือกทั้ง รถไฟ รถบัส หรือจะเป็น เรือโดยสาร จะเลือกทางไหนก็สะดวกสบายไม่ต่างกัน
เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ครบรส ผจญภัย ของอร่อย ย่านชอปปิ้ง
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Interlaken เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน นั่นคือความหลากหลายของกิจกรรม ที่เมืองแห่งนี้คุณสามารถเลือกเส้นทางเดินป่า เพื่อออกผจญภัยในดินแดนที่คุณไม่เคยพบเห็น เต็มไปด้วยอาหารอร่อยให้คุณได้ลิ้มลอง โดยเฉพาะช็อกโกแลตที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก และ มีย่านชอปปิ้งสุดชิล สำหรับผู้ที่ต้องการของฝากติดไม้ติดมือ แน่นอนว่าสินค้าขึ้นชื่อต้องเป็นนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์อันเลื่องชื่อ
จริงหรือไม่ ? Interlaken เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของการท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์
เคยมีคำกล่าวเอาไว้ว่า “หากคุณอยากเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ให้ถึงแก่นแท้ ต้องมาเริ่มต้นที่ Interlaken” ซึ่งคำกล่าวนี้ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะอินเตอร์ลาเคนเป็นเมืองที่ถูกเรียกว่า “ประตูสู่จุงเฟรา” เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นสู่ก่อนท่องเที่ยวในภูมิภาคจุเฟรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเอลป์ จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็อยากมาพิชิต ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ Interlaken จะกลายเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางมาที่สวิตเซอร์แลนด์
แล้วถ้าอยากเดินทางจากไทยไป Interlaken ต้องเตรียมตัวยังไง ?
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากเริ่มต้นทริปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ Interlaken ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ในการออกเดินทาง ไปกับครอบครัว หรือจะไปกับแก๊งๆเพื่อนฝูง ก็สามารถไปได้เหมือนกัน ดังนี้
ค่าเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – Zurich: โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 – 35,000 บาท หากจองล่วงหน้าจะได้ราคาดีกว่า
ระยะเวลาเดินทาง: ใช้เวลาบินประมาณ 12-13 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถไฟจากสนามบิน Zurich ไป Interlaken ใช้เวลาอีกราว 2 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ: ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 3,000–6,000 บาท (รวมค่าที่พัก อาหาร การเดินทาง)
ที่พักใน Interlaken มีแบบไหนบ้าง ?
เชื่อมั้ยว่าเมือง อินเตอร์ลาเคนสวิสต์เซอร์แลนด์ ไม่ได้มีดีแค่สถานที่ท่องเที่ยวสุดอลังการเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่มีที่พักให้เลือกหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายประหยัดแบบแบกเป้ หรือชอบพักหรูแบบวิวภูเขาเต็มตา บอกเลยที่นี่มีให้ครบหมด และนี่คือคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ยังลังเลว่าควร พักโซนไหนดีใน Interlaken ?
โซนยอดฮิต พักแถวไหนดี ?
โดยทั่วไป Interlaken จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆที่นักท่องเที่ยวนิยมพักกัน ดังนี้ :
Interlaken Ost (ฝั่งตะวันออก): เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยหรือวางแผนจะขึ้น Jungfrau, Grindelwald หรือ Lauterbrunnen เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟหลัก (Interlaken Ost Station) และยังเป็นจุดต่อรถไฟสายสำคัญ มีโรงแรมและโฮสเทลหลากหลายราคาให้เลือก
Interlaken West (ฝั่งตะวันตก): โซนนี้เหมาะกับคนที่ชอบความชิล ร้านอาหาร ถนนคนเดิน และบรรยากาศเมืองยุโรปแบบสบายๆ ใกล้ย่านช้อปปิ้ง และมักจะเงียบสงบกว่า Ost เล็กน้อย
สรุปแบบเข้าใจง่าย:
อยากเที่ยวต่อ ขึ้นเขา / นั่งรถไฟ ให้ไปพักที่ Interlaken Ost
อยากชิลในเมือง เดินเล่น ถ่ายรูป + หาของกิน ให้ไปพักที่ Interlaken West
รีวิวที่พักราคาดี วิวหลักล้าน
ในเมืองนี้จะมีที่พักราคาตั้งแต่หลักร้อย (CHF) จนถึงหลักพัน +++ ขึ้นอยู่กับระดับความหรูและวิวที่คุณต้องการ บางคนงบถึงแต่ยังไม่รู้ว่าควรจะพักที่ไหนดีถึงจะอิ่มเอมใจตลอดการพักผ่อน ลองดู 4 ลิสต์ที่เราทำแนะนำไว้ให้ดูสิไม่แน่ว่าอาจจะชอบจนต้องกลับมาพักซ้ำรอบ 2 เลยก็ได้นะ !?
🏨 Hotel Interlaken
- โรงแรมระดับ 4 ดาว ใกล้ Interlaken Ost
- ตึกเก่าคลาสสิก บรรยากาศอบอุ่น วิวภูเขาและสวนสวย
- เดินถึงสถานีรถไฟได้ภายใน 5 นาที
🏨 Victoria Jungfrau Grand Hotel & Spa
ที่พักสุดหรูระดับ 5 ดาวกลางเมือง วิว Jungfrau พาโนรามา
มีสปา ฟิตเนส และห้องอาหารระดับเชฟมิชลิน
เหมาะกับสายพรีเมียมหรือทริปฮันนีมูน
🏡 Backpackers Villa Sonnenhof
โฮสเทลยอดนิยมสำหรับสายประหยัดและสายโซเชียล
มีครัวให้ใช้ อาหารเช้าฟรี ห้องพักสะอาดและปลอดภัย
ใกล้สวนสาธารณะและไม่ไกลจาก Interlaken West
🏠 Swiss Inn & Apartments
ที่พักแบบอพาร์ตเมนต์ เหมาะกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
มีครัวและพื้นที่ใช้สอยกว้าง วิวภูเขาสวยมาก
ราคาคุ้มค่าเมื่อหารเฉลี่ยกันหลายคน
เคล็ดลับที่ไม่ลับสำหรับการ จองห้องพัก ใน Interlaken
-
ถ้าเที่ยวช่วง ฤดูร้อน (ระหว่างพ.ค.–ก.ย.) หรือ ฤดูหนาว (ระหว่างธ.ค.–ม.ค.) คุณควรจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1–2 เดือน เพราะมันเป็น High Season ราคาอาจจะดีดขึ้นได้ถ้าจองช้า
-
ตรวจสอบก่อนว่าที่พักของคุณใกล้สถานีรถไฟหรือเปล่า ถ้าใกล้ก็อาจจะลำบากในการจอดรถยนต์ แต่เราขอแนะนำว่าหากคุณไม่มีรถจะสะดวกกว่ามาก เพราะระบบสาธารณะที่นี่เค้าตอบโจทย์ดีอยู่แล้ว
-
ใช้ Swiss Travel Pass บ้างหรือเปล่า? เพราะบางที่มี ส่วนลดที่พัก สำหรับผู้ถือบัตรด้วยนะ
สถานที่เที่ยวรอบ Interlaken ที่สายเที่ยวห้ามพลาด !
อย่างที่เราเคยบอกไปว่าเมือง Interlaken ไม่ได้มีดีแค่ในตัวเมืองเท่านั้นจริงๆ แต่ยังมีโลเคชั่น และ พิกัดเด็ดๆ รอบเมืองที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายใน 1 วัน และที่สำคัญคือ… สวยจนลืมหายใจ ! ใครเหนื่อยจากทำงาน เหนื่อยจากอะไรหลายๆอย่างมือเชื่อเลยว่าโดนวิวทิวทัศน์ที่นี่ฮีลใจได้แน่นอน ที่สำคัญต่อให้คุณมีเวลาพักผ่อนเพียง 2-3 ในการใช้ชีวิตอยู่ที่ แต่นั่นมันก็เพียงพอแล้วที่จะเก็บไฮไลท์รอบๆได้ครบ มาลองดูกันดีกว่าว่าอะไรคือจุดห้ามพลาด ที่ควรใส่ไว้ในแพลนเที่ยวของคุณ !
🛶 ทะเลสาบ Thun & Brienz – วิวเงียบสงบสุดโรแมนติก
Interlaken ตั้งอยู่ “ระหว่าง” ทะเลสาบสองแห่งคือ Thun และ Brienz ซึ่งนั่นก็คือที่มาของชื่อเมือง (Inter = ระหว่าง, Laken = lake) เรียกได้ว่าคุณไม่ต้องไปไหนไกลก็เจอวิวระดับโปสต์การ์ดได้เลย แถมยังได้พักผ่อนฮีลใจกันเต็มสตรีมทั้ง 2 สถานที่นี่ด้วย
ทะเลสาบ Thun (ทางฝั่งตะวันตก): จะมีน้ำสีฟ้าอมเขียว ใสเหมือนกระจก รอบๆก็จะถูกรายล้อมด้วยหมู่บ้านเล็กๆ และปราสาทริมผา เช่น Schloss Oberhofen ซึ่งวิวตรงนี้เหมือนคุณกำลังมองผ่านช่อง Tiktok ดังๆที่ถ่ายมาลงเลยล่ะ
ทะเลสาบ Brienz (ทางฝั่งตะวันออก): ทางฝั่งนี้จะมีน้ำสีเทอร์ควอยซ์แบบธรรมชาติสุดๆ เงียบกว่า thun แต่ก็เหมาะกับการล่องเรือหรือพายเรือคายัคท่ามกลางภูเขาเอาบรรยากาศฟินๆ เหมาะมากสำหรับสาย adventure
📸 แปะพิกัดที่ถ่ายรูปสุดจึ้ง ! : ถ่ายรูปตรงท่าเรือ หรือขึ้นเรือรอบทะเลสาบรับรองว่าได้รูปสวยเกินต้านแน่นอน
🏞️ Harder Kulm – จุดชมวิวเมืองจากมุมสูง
ถ้าคุณอยากมองดูวิวมุมสวยๆ เชื่อเถอะว่าสถานที่นี้จะทำให้คุณเห็นวิว อินเตอร์ราเคนแบบพาโรนามาทั้งหมดแน่นอน ! ซึ่งที่ Harder Kulm คุณอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย เพราะว่ามันเป็นจุดชมวิวที่อยู๋สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,300 เมตร แต่สบายใจได้คุณไม่ต้องเดินเองขึ้นแน่อน เพราะมันมีกระเช้ารับส่งอยู่แล้ว ส่วนหลังจากที่ขึ้นไปถึงยอดสูงสุดแล้ว คุณก็จะสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมือง , ทะเลสาย Thun/Brienz รวมถึงเทือกเขา Jungfrau ได้ในคราวเดียวเลยล่ะ
ขึ้นไปจุดชมวิวง่ายๆด้วย กระเช้า Harderbahn จากสถานี Interlaken Ost โดยใช้เวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น
ด้านบนมี Skywalk พื้นกระจกยื่นออกจากหน้าผา เหมาะมากสำหรับสายชอบวัดใจ ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียวกับอะไรแบบนี้
มีร้านอาหารบนยอดเขา บรรยากาศดีเหมือนอยู่ในหนังดิสนีย์ยังไงยังงั้นเลย
🚞 Interlaken เป็นประตูสู่ Jungfraujoch
หนึ่งในเหตุผลที่ Interlaken เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็คือ… ที่นี่คือประตูสู่ยอดเขาจุงเฟรา หรือที่เรียกว่า Top of Europe ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ใครได้ขึ้นไปเห็นจะต้องยอมรับเลยว่าวิวที่นี่ดีกว่าที่อื่นจริงๆ
เส้นทางหลัก: จาก Interlaken Ost ไปที่ Grindelwald หรืออีกทางคือ Lauterbrunnen ไปที่ Kleine Scheidegg แล้วค่อยต่ออีกรอบไปจบที่ Jungfraujoch
ใช้เวลารวมประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง (แต่ถ้าจะไป-กลับก็อาจต้องเผื่อเวลาเยอะหน่อย)
ระหว่างทางวิวคือสุดยอดนัมเบอร์วันเลย เพราะมีโอกาสได้เห็นทั้งภูเขาหิมะ ถ้ำธารน้ำแข็ง และธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier จุกๆไว้ที่เดียว
ใครที่อยากสัมผัสหิมะตลอดทั้งปี แม้มาเที่ยวหน้าร้อน บอกเลยว่า Jungfraujoch คือตอบโจทย์แบบ 10/10 เก็บเกี่ยวบรรยากาศ ความรู้สึก แล้วพกกลับไปเมืองไทยยังอยู่ได้อีกยาวๆ
ขับรถเที่ยวเองใน Interlaken ดีไหม ? หรือใช้ Swiss Travel Pass ดีกว่า ?
สำหรับมือใหม่สายเที่ยวสวิตฯ อาจลังเลระหว่างการขับรถเที่ยวเองกับการใช้บัตร Swiss Travel Pass คำตอบขึ้นอยู่กับสไตล์ของคุณ ถ้าชอบความสะดวก ไม่อยากกังวลเรื่องการจอดรถหรือทางภูเขา Swiss Travel Pass คือคำตอบ เพราะครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่รถไฟ เรือ รถบัส ไปจนถึงกระเช้าไฟฟ้า
กิจกรรมแนะนำใน Interlaken สำหรับสายผจญภัย / ชิลล์
นอกจากเรื่องที่เที่ยว ที่พัก ความสวยงามจากบรรยากาศที่อินเตอร์ลาเคนแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมทั้งแบบ Adventure สนุกๆเหมาะกับสายลุย และ กิจกรรมแบบเหมาะกับสาย Chil ฉบับรวมไว้ที่เดียวให้ครบ ใครที่มาเที่ยวแล้วกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้ทำ บอกเลยว่าคิดผิดแน่นอน ! เพราะ กิจกรรมที่ทาง Interlaken จัดไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวนั้นมีเยอะมากจริง เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
🪂 พาราไกลด์, ปีนเขา, ล่องเรือ
Paragliding Interlaken
นี่คือกิจกรรมห้ามพลาด สำหรับสายลุย เพราะคุณจะได้โบยบินกลางอากาศพร้อมวิวเทือกเขาแอลป์, ทะเลสาบ Brienz และเมืองเล็ก ๆ ด้านล่าง มุมที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็น โดยถ้ามือใหม่จะได้บินพร้อมกับครูบิน ส่วนระยะเวลาก็ใช้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งรวมเวลาเตรียมตัวขึ้นและลงไว้แล้ว
ปีนเขา & Trekking Trails
รอบๆ Interlaken มีเส้นทางเดินป่าและปีนเขาหลายระดับ ตั้งแต่สายธรรมชาติชิลล์ๆ จนถึงเส้นทางลุยๆ ที่เห็นน้ำตก หุบเขา และลานหิมะ คุณได้พบกับธรรมชาติที่สัมผัสได้เมื่อทำกิจกรรม Adventure สายนี้ แต่ต้องระวังให้มากๆถ้าคุณไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญในการปีนเขา ยิ่งใครเป็นครั้งแรกต้องเซฟตี้สุดๆเลย
ล่องเรือทะเลสาบ
จะทะเลสาบ Thun ฝั่งตะวันตก หรือ Brienz ฝั่งตะวันออกก็มีเรือเฟอร์รีและเรือพิเศษให้ล่องชมวิว รับลม พร้อมวิวหมู่บ้านสวิสริมผา ซึ่งโรแมนติกจนมีหลายคู่แล้วที่ไปแล้วเกิดโมเมนต์พิเศษ เช่น การขอกันแต่งงาน ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด ณ เวลาตอนนั้นเชื่อเลยว่าไม่มีใครลืมโมเม้นต์ดีๆแบบนั้นไปจนตายแน่นอน
🚲 เดินเล่นริมแม่น้ำ Aare หรือปั่นจักรยานชมเมือง
แม่น้ำ Aare
แม่น้ำ Aare (อ่านว่า อาเร) คือแม่น้ำที่เป็นเส้นหลักของ Interlaken ที่ไหลเชื่อมระหว่างทะเลสาบทั้งสองฝั่ง บริเวณริมแม่น้ำมีเส้นทางเดินและปั่นจักรยานที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติและบ้านเมืองแสนคลาสสิก
เช่าจักรยานปั่นชิลล์ๆ
หากคุณเป็นสายปั่น ปั่นเที่ยว ปั่นออกกำลังกาย ปั่นชิลล์ๆ คุณสามารถเช่าจักรยานมาปั้นรอบเมืองได้ โดยจะมีทั้งแบบ e-bike และจักรยานธรรมดา (ร้านเช่าเยอะมากใน Interlaken West)
lazy river
ถ้าคุณมาอินเตอร์ลาเคนในช่วงหน้าร้อน คุณสามารถไปเข้าร่วม “กิจกรรมลอยตัว” ตามแม่น้ำ Aare ได้ด้วยนะ ! ฟีลเหมือนใส่ชูชีพแล้วปล่อยตัวตามน้ำ เหมือนเล่น lazy river ธรรมชาติๆอะไรแบบนั้น ใครที่หาที่ดับร้อนบอกเลยว่ากิจกรรมนี้ตอบโจทย์เช่นกัน
ไปเที่ยว Interlaken เดือนไหนดี ?
อ่าวถ้ารู้แล้วว่าเมืองนี้สวย งี้จะไปเที่ยวช่วงเดือนไหนดีล่ะ ? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากไปเห็นช่วงไหนของเมืองนั้นจะดีกว่า เพราะไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว Interlaken ที่เที่ยว ก็จะมีเสน่ห์คนละแบบ ถือว่าดีต่อใจทั้งคู่ เอาล่ะ ! เดี๋ยวเราจะพาคุณไปรู้ข้อดีของแต่ละช่วงเดือน ช่วงฤดูกัน เผื่อว่าคุณจะได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกก่อนออกเดินทางมาเที่ยวที่นี่จริงๆ
ช่วงซัมเมอร์ – ออกไม้บาน เดินป่า
ช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน ถือว่าเป็นฤดูร้อนของ Interlaken ที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัด และยังไม่หนาวจนเกินไป เหมาะสำหรับใครที่อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ ท้องฟ้าแจ่มใส ทุ่งหญ้าเขียวสด ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งทั่วเมือง และทะเลสาบทั้งสองฝั่งก็จะกลายเป็นสีฟ้าใสสวยงามราวกับกระจกเงา
เดือนที่แนะนำ: พฤษภาคม – กันยายน
จุดเด่น: อากาศอบอุ่น กำลังดี ไม่ร้อน ไม่หนาว
ธรรมชาติ: ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าใส ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม
แต่ถ้าหากคุณเป็นสายกิจกรรม นี่ก็จะเป็นช่วงเวลาทองของคุณด้วยเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะเดินป่าตามเส้นทางรอบทะเลสาบ ล่องเรือ พายคายัค หรือพาราไกลด์เหนือหุบเขาก็ล้วนเป็นกิจกรรมยอดฮิตในฤดูนี้ ช่วงนี้ยังเหมาะกับการไปเยือนหมู่บ้าน Lauterbrunnen หรือ Grindelwald เพราะไม่มีหิมะตกหนัก เดินทางง่ายและถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่เต็มที่
กิจกรรมเด่น:
เดินป่า Trekking รอบทะเลสาบ
ล่องเรือ, พาราไกลด์
เที่ยว Lauterbrunnen & Grindelwald แบบไม่ต้องกลัวหิมะ
เหมาะกับสาย: ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ถ่ายรูปวิวเขียว ๆ โรแมนติกสายธรรมชาติ
📌 ข้อควรรู้: ช่วงนี้คือ High Season ที่พักจะเต็มไวมากๆ แนะนำให้จองล่วงหน้า 1–2 เดือนกำลังดี
ช่วงหน้าหนาว – หิมะปกคลุมสุดโรแมนติก
ระหว่างเดือนธันวาคม – มีนาคม ช่วงนี้จะถือว่าเมือง Interlaken จะเปลี่ยนเป็นเมืองหิมะสุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของฤดูหนาว ทั้งเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน บ้านเรือนสไตล์ยุโรปคลาสสิกประดับไฟช่วงคริสต์มาส เหมาะสำหรับคนที่ฝันถึงการเดินเล่นในเมืองหนาวพร้อมถ่ายรูปในบรรยากาศเทพนิยาย หากคุณถ่ายรูปอัปโซเชียลช่วงนี้บอกเลยคนกดถูกใจ กดคอมเม้นต์กันเต็มแน่นอน !
เดือนที่แนะนำ: ธันวาคม – มีนาคม
จุดเด่น: เมืองถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยาย
ธรรมชาติ: ภูเขาหิมะ, หมู่บ้านสวิสโบราณในหุบเขาเต็มไปด้วยไฟประดับช่วงคริสต์มาส
ส่วนกิจกรรมในหน้าหนาวของ Interlaken ก็ไม่น้อยหน้า เพราะไม่ว่าจะเป็นขึ้นยอดเขา Jungfraujoch เพื่อชมธารน้ำแข็งตลอดปี หรือจะไปเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่ Grindelwald และ Wengen ก็สะดวก เพราะรถไฟจาก Interlaken จะพาคุณไปถึงจุดเล่นสกีได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้บางโรงแรมยังมีบริการแช่น้ำร้อนกลางแจ้งพร้อมชมวิวภูเขาหิมะ เป็นประสบการณ์ที่หลายคนติดใจเลยก็ว่าได้
กิจกรรมเด่น:
ขึ้น Jungfraujoch ชมธารน้ำแข็ง
เล่นสกี, สโนว์บอร์ด, เดินบนลานน้ำแข็ง
แช่น้ำอุ่นพร้อมชมวิวหิมะ (บางโรงแรมมีบริการนี้)
📌 ข้อควรรู้: ช่วงปลายธันวาคมถึงต้นมกราคมเป็นช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ ดังนั้นราคาที่พักจะพุ่งสูงขึ้นหลายเท่า ถ้าคุณจะมาฤดูนี้อาจต้องวางแผนล่วงหน้าให้มากกว่าเดิม
เที่ยว Interlaken กี่วันดี ? จัดทริปยังไงให้ไม่พลาดฉบับมือโปร
จริงๆขอบอกก่อนเลยว่าความสวยงามของเมือง Interlaken ไม่ใช่แค่เมืองที่เป็นทางผ่านที่จะมานอนคืนเดียวแล้วไปต่อเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วที่นี่เต็มไปด้วยที่เที่ยว ที่กิน และกิจกรรมที่คุณอาจใช้เวลาได้มากกว่าที่คิด ! ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากไปเที่ยวเมืองในฝันแห่งนี้แล้วยังไม่รู้ว่าควรจัดแพลน จัดทริป ยังไงไม่ให้พลาดความสนุก เอาแบบจัดเต็มจัดครบ พร้อมหอบความทรงจำกลับบ้านกันเลย
แต่ถ้าจะให้เราแนะนำแบบ “บาลานซ์” ไม่รีบไป ไม่ช้าไป ระหว่างการเดินทาง ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่จะได้รับ เราขอเสนอตัวเลือกยอดฮิตเลยก็คือ ทริป 2 วัน 1 คืน กับ 3 วัน 2 คืน ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาจำกัดแต่ยังอยากเก็บครบแบบไม่เหนื่อยจนเกินไป
แพลนเที่ยวInterlaken 2 วัน 1 คืน
Day 1
เดินทางจาก Zurich / Bern มาถึง Interlaken ช่วงเช้า
เดินเล่นย่าน Interlaken West ที่เป็นถนนคนเดิน ร้านขนม คาเฟ่วิวดีอะไรพวกนั้น
พอช่วงบ่ายขึ้นกระเช้าไป Harder Kulm ชมวิวเมืองจากมุมสูง
ขากลับลงมาแวะซื้อของฝาก + ดินเนอร์ร้านท้องถิ่นสุดชิล
Day 2
ตอนเช้าออกจาก Interlaken Ost แล้วเดินทางขึ้น Jungfraujoch (Top of Europe)
เที่ยวยอดเขา เล่นหิมะ ถ่ายรูปกับธารน้ำแข็งเก๋ๆอยู่ข้างบน
พอลงมาช่วงบ่ายก็เดินชมทะเลสาบ Brienz หรือ Thun ซึ่งจะมองเห็นได้ทั้งสองฝั่ง
สุดท้ายก็เดินทางกลับเมืองใหญ่ช่วงเย็น
💡เหมาะกับคนที่อยากเก็บ “Must-see” แต่มีเวลาน้อย
แพลนเที่ยวInterlaken 3 วัน 2 คืน
Day 1
มาถึงช่วงเช้า เดินชิลที่เมืองเก่า ก่อนจะไปปั่นจักรยานที่ริมแม่น้ำ Aare เพื่อดูวิวทิวทัศน์
พักผ่อนเบาๆ + จิบช็อกโกแลตร้อน ดูวิวภูเขาที่คาเฟ่เจ้าถิ่นสุด cool
ตอนเย็นค่อยขึ้น Harder Kulm เพื่อดูพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก
Day 2
เดินทางขึ้น Jungfraujoch โดยใช้เวลาเต็มวันในการอยู่ข้างบน อาจจะเซลฟี่ เอาวิว อะไรก็ว่าไป
หลัจากนั้นก็กลับลงมาพักผ่อนในเมือง หรือ เข้าคาเฟ่เก๋ๆเพื่อสั่งขนมหวานรองท้อง
ถ้ามากลุ่มใหญ่เราแนะนำให้ทำ BBQ กินที่ที่พักวิวภูเขาก็ฟินสุดๆ
Day 3
เช้าๆให้ไปที่หมู่บ้าน Grindelwald หรือล่องเรือทะเลสาบ Brienz จะวิวดีมาก
หลังจากนั้นให้ไปถ่ายรูปสุดชิคที่ Iseltwald (โลเคชั่นซีรีส์ดัง Crash Landing on You ใครดูบอกเลยว่างานนี้แหละต้องตามรอย พระ-นาง ให้ถึงที่สุด)
พอเสร็จจากที่ก่อนหน้า เวลาเหลือๆก็เดินเล่นซื้อของก่อนเดินทางกลับก็ยังได้
💡เหมาะกับสายถ่ายรูป สายชิล สายฟินที่อยากอินกับเมืองให้มากขึ้น
เคล็ดลับ ! เที่ยว Interlaken ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อกรุ๊ปทัวร์ในปี 2025
- ศึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมือง Interlakenเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มอารมณ์ร่วมของการท่องเที่ยวไปในตัว
- จัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบินไปกลับ , จองที่พักล่วงหน้า , เตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการเดินทาง และ ที่ขาดไม่ได้คือการทำประกันเดินทาง
- ทำความเข้าใจกับสภาพอากาศในช่วงที่จะเดินทางไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อากาศเย็น ซึ่งเมือง Interlakenจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศจะหนาวมาก คนไทยอย่างเรา ๆ อาจไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่
- หากมีแผนเที่ยวเมืองอื่น ๆ ที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย อยากแนะนำให้เลือกซื้อตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางหลายวัน เพราะช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว
สรุป Interlaken เหมาะกับใคร? คุ้มค่ากับการไปมั้ย
รีวิวไม่อวย : เมืองInterlaken อาจจะไม่ใช่เมืองใหญ่ อาจจะไม่ใช่เมืองหลวง แทบจะไม่ได้มีห้างหรูหรือคาเฟ่แนวแฟชั่นแบบปารีสหรือโซล แต่มันคือเมืองที่คุณจะอยากกลับไปซ้ำแน่นอน เพราะไม่ว่าใครได้ไป 1 ครั้งก็ถึงกับบอกว่าต้องซ้ำรอบ 2-3-4-5 แบบไม่ต้องสงสัย แต่ก็นะมันเป็นความรู้สึกพิเศษที่ยากจะอธิบาย เว้นแต่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคุณจะรู้ว่า “ นี่แหละเมืองที่ไม่ควรพลาดอย่างแท้จริง ! ”